บริการด้าน ทันตกรรมรากฟันเทียม (Dental Implant)
ทันตกรรมรากฟันเทียม
ทันตกรรมรากฟันเทียม (Dental Implant) เป็นที่รู้จัก และนิยมมากในปัจจุบัน เพราะหลังจากที่เรามีการสูญเสียฟันไปแล้วนั้น ถ้าหากเป็นเมื่อก่อน เราก็คงต้องใส่เป็นฟันปลอมซึ่งทำให้ลำบากในการรักษา และลำบากในการรับประทานอาหาร และบางครั้งยังดูไม่เป็นธรรมชาติอีกด้วย แต่ในปัจจุบันมีเทคโนโลยีการทำทันตกรรมรากฟันเทียม เข้ามาทำให้เราสามารถสร้างฟันกลับมาได้ใหม่อีกครั้ง ซึ่งในการทำทันตกรรมรากเทียมนี้ นอกจากจะทำให้เราได้สร้างฟันขึ้นมาใหม่ทดแทนฟันที่สูญเสียไปแล้ว แต่ฟันที่ถูกทำขึ้นมาใหม่นั้นยังมีความสวยงาม และความเป็นธรรมชาติอย่างมากด้วย จนกระทั่งคุณมองไม่ออกเลยว่าฟันซี่ไหนคือฟันธรรมชาติ และฟันซี่ไหนคือฟันที่เกิดจากการทำ ทันตกรรมรากฟันเทียม
แต่ทั้งนี้คุณต้องมั่นใจด้วยว่าการทำทันตกรรมรากฟันเทียม นั้นถูกบูรณะด้วยผู้เชี่ยวชาญทางด้านทันตกรรม เพื่อความงามโดยตรง ในกรณีที่ต้องมีการบูรณะฟันจำนวนหลายๆ ซี่ เราเป็นผู้เชี่ยวชาญที่สามารถเรียงฟันได้ดูสวยงาม และเป็นธรรมชาติเพื่อทำให้คุณมีรอยยิ้มที่สวย และมีความมั่นใจมากขึ้น นอกจากนั้นเรายังมีการศึกษาอย่างต่อเนื่องเพื่อพัฒนาเทคนิคในการรักษาของเรา ให้ทันกับเทคโนโลยีอยู่ตลอดเวลาเพื่อให้ได้ผลงานการรักษาที่ดีที่สุด
การใส่ฟันบนรากฟันเทียม มี 3 แบบ คือ
รากฟันเทียมรองรับครอบฟัน
Single Tooth - A tooth and its root are missing.
รากฟันเทียม รองรับสะพานฟัน
Multiple Teeth - Two or more teeth are missing.
รากฟันเทียมรองฟันปลอมทั้งปาก
All Teeth - When all teeth are missing.
Information from : straumann
ขั้นตอนการทำทันตกรรมรากฟันเทียม
ขั้นที่หนึ่ง : ตรวจประเมินผลพร้อมวางแผนการรักษาโดยหมอฟันเชียงใหม่ ผู้เชี่ยวชาญด้านรากฟันเทียม
ขั้นที่สอง : ฝังรากฟันเทียม
รอพักประมาณ 2 เดือน เพื่อให้กระดูกยึดรากฟันเทียม
ขั้นที่สาม : ใส่ครอบฟันที่มีลักษณะ และสีเหมือนฟันที่เป็นธรรมชาติ และมีความสวยงาม จนคุณแยกไม่ออกเลยว่าฟันซี่ไหนเป็นฟันที่ ทำรากฟันเทียม
คนไข้บางคนอาจมีความจำเป็นที่จะต้องปลูกกระดูก (Bone Grafts) เพื่อรองรับรากฟันเทียม ทันตแพทย์ จะประเมินผล และแจ้งให้ทราบก่อนการฝังรากฟันเทียม
สำหรับการทำทันตกรรมรากฟันเทียม เหมาะสำหรับทุกคนที่สูญเสียฟันไป และอยากจะได้ฟันกลับมาใหม่อย่างเป็นธรรมชาติ
ข้อดีของการทำรากฟันเทียม
- ไม่ต้องเสียเวลาในการรักษาฟันหลายๆ ครั้ง
- ทดแทนฟันแท้ที่สูญเสียไปได้เป็นอย่างดี และไม่ทำลายเนื้อฟันข้างเคียง
- สามารถรับประทานอาหารได้ทันที และสามารถรับประทานอาหารได้ทุกชนิดที่ต้องการ
- มีโครงสร้างฟันที่ได้เลียนแบบโครงสร้างฟันที่เป็นธรรมชาติ
- ไม่จำเป็นต้องทำการกรอฟันข้างเคียงเพื่อใส่สะพานฟัน (Dental Bridge)
- ทำให้มีรอยยิ้มที่สวยงาม มีฟันสวยเป็นธรรมชาติ
- เพิ่มประสิทธิภาพในการบดเคี้ยวอาหารได้เป็นอย่างดี
การดูแลรักษาหลังจากทำรากฟันเทียม
- ข้อควรระวัง และการจัดการความเจ็บหลังการผ่าตัด
- ใช้น้ำแข็งประคบแก้มบริเวณที่ทำรากเทียม ประมาณ 2 วันหลังผ่าตัด
- หลีกเลี่ยงการออกกำลังการที่มากเกินความจำเป็น การทำงานหนักและการอบเชาว์น่า
- ห้ามแปรงฟันบริวณที่ฝังรากฟันเทียม 23 วัน ใช้น้ำยาบ้วนปาก2 ครั้งต่อวัน เป็นเวลา 7 วัน
- หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และงดสูบบุหรี่เป็นเวลา 2 สัปดาห์
- เคี้ยวอาหารข้างที่ไม่ได้ทำรากฟันเทียม และหลีกเลี่ยงอาหารร้อน
- ในกรณีที่ผ่าตัดปลูกกระดูกในไซนัสในขากรรไกรบน ให้หลีกเสี่ยงการสั่งน้ำมูก และการถ่มน้ำลาย
- หากมีเลือดไหลให้ใช้ผ้าก็อซชับเลือด และถ้าเลือดยังไหลอยู่ให้พบทันตแพทย์ เพื่อรักษาได้อย่างเหมาะสม
- อาจมีอาการบวม 2-3 วันหลังการผ่าตัด ให้ใช้น้ำแข็งประคบ 1-2 วันหากมีอาการเจ็บผิดปกติบริเวณที่บวม ให้รีบปรึกษาแพทย์เพื่อติดตามการรักษาได้อย่างเหมาะสม
1. ตัวอย่างการนัดหมายเพื่อติดตามการรักษา
- 1 สัปดาห์
- 1 เดือน
- 3 เดือน
- 6 เดือน
- 1 ปี
2. การแปรงฟันอย่างถูกวิธี
สามารถป้องกันโรคเหงือกได้ด้วยการแปลงฟันอย่างถูกขั้นตอนเป็นประจำโดยทำความสะอาดเหงือกและพื้นผิวบริเวณรอบฟัน ส่วนคราบแบคทีเรียสามารถทำความสะอาดได้โดยการใช้แปรงชอกฟันแปรงรอบๆตัวรากฟันเทียม อย่างไรก็ตามเพื่อประสิทธิภาพสูงสุด คือคนไข้ต้องรู้จักดูแลตัวเอง และพบทันตแพทย์เป็นประจำอย่างน้อยทุก 6 เดือน